ถึง พันธมิตรทุกคนที่ยึดสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในตอนนี้...
กรุณาอ่านเรื่องด้านล่างนี้แล้วคิดเอาเองว่า เรากำลังจับเขาเหล่านี้เป็นตัวประกันเพียงเพื่อแสดงความสะใจ เพียงเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกลุ่มพวกคุณแค่นั้นหรือ ?
ถ้ามีสมองใหญ่เพียงพอที่จะใช้คิดก่อนทำ .. ก็อยากให้ใช้มันคิดให้มาก มากกว่าใช้อารมณ์และความรู้สึกอย่างที่เป็นอยู่.. ทุกอย่างยังไม่สายเกินไปมากนัก กลับตัวกลับใจ เดินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเถอะ .. สังคมไทยตลอดจนถึงสังคมโลกคงจะทำใจให้อภัยพวกคุณได้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาทำใจบ้าง เพระความสูญเสียที่คุณทำเอาไว้ตอนนี้มันสาหัสนักต่อ สังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และ ชื่อเสียง ของประเทศเราในสายตาชาวไทยและประชาคมโลก
ผมไม่มั่นใจว่าผู้โดยสารต่างชาติกว่าสามพันคนที่ติดค้างอยู่ที่นี่อันเนื่องมาจากการลุแก่อำนาจของพวกคุณนั้นมีมาจากกี่ชาติ แต่ที่ผมรู้ก็คือพวกเขาเหล่านี้ถูกบังคับให้เป็นตัวประกันของพวกคุณไปโดยปริยาย
มีหลายๆคนที่เป็นอเมริกันที่เขาเฝ้ารอกลับบ้านเพื่อไปฉลอง Thanks Giving กับครอบครัวของเขาในวันนี้ (27 พย 2551) แต่พวกคุณก้ได้ทำลายความหวังและความสุขของพวกเขาไปเรียบร้อยแล้ว
พวกคนต่างชาติเหล่านี้ พวกเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย .. ถ้าคุณต้องการเรียกร้องเพื่อสิทธิเสรีภาพของพวกคุณ .. แล้วพวกเขาหล่ะ เขาต้องเสียสิทธิเสรีภาพของเขาเหล่านี้เพื่อพวกคุณด้วยเหรอ ?
พวกคุณล้ำเส้นเกินไปมากแล้ว ไตร่ตรองใหม่ พวกคุณไม่ได้แค่จะพยายามทำลายรัฐบาลชุดนี้ให้แหลกคามือเท่านั้น พวกคุณกำลังทำลายชาติบ้านเมืองของเราให้แหลกคามือไปด้วย และถ้าเหตุการณ์นี้มันบานปลายจนหยุดไม่อยู่ พวกคุณก็ไม่ต่างอะไรกับพวกทรราชย์ที่พวกคุณปั้นแต่งขึ้นมาด่าใส่เขาทุกวัน และหลังจากนี้ ลูกกหลานของพวกคุณคงจะจารึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้ให้พวกคุณใหม่ว่า ... พันธมิตรสามานย์
ด้วยความหวังดียิ่งต่อชาติ
สมนึก จงมีวศิน
(หนึ่งในประชาชนที่เดือดร้อนจากการกระทำของพวกพันธมิตรจากการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ)
----------------------------------------------------------------------
นักท่องเที่ยวสวีเดนช้ำ ลูกป่วย ติดแหงกถูกลอยแพที่สุวรรณภูมิ
หนังสือพิมพ์ชั้นนำ Expressen ของสวีเดนรายงานข่าวหน้าหนึ่งในวันนี้ โดยสัมภาษณ์สามีภรรยาคู่หนึ่งและลูกสองคนที่ติดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิหลายชั่วโมงโดยไม่รู้อนาคต
แม็ทส์และแอนนา สามีภรรยาชาวสวีเดน และลูกสองคนอายุสองขวบครึ่งและอีกคนอายุเพียง 11 เดือน ติดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิพร้อมกับผู้โดยสารกว่า 3,000 คนเนื่องจากเที่ยวบินถูกยกเลิกถึง 78 เที่ยวบิน รวมถึงเที่ยวบินจากโคเปนเฮเกน-กรุงเทพ ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่นักท่องเที่ยวชาวสแกนดิเนเวียนิยมใช้บริการ
แม็ทส์ กล่าวว่า “เด็กๆ ป่วย และเราไม่ได้รับการแจ้งข้อมูลว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก เราประหลาดใจ และตกใจมาก ระหว่างที่เราขึ้นแท็กซี่มาที่สนามบิน เราเห็นคนประท้วง คนเหล่านั้นจำนวนมากมีอาวุธด้วย ในตอนนี้เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้ครอบครัวเราอยู่ที่นี่พร้อมกับเด็กๆ เล็ก เราไม่มีข้อมูลเลย เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้บอกอะไรเลย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คุณรู้สึกอย่างไร? เขาตอบว่า “ลูกของเราป่วย มันเป็นแย่มาก (damn bad) ลูกของเราปวดท้อง”
ต่อคำถามที่ว่า คุณจะกลับมาประเทศไทยหรือไม่? “มันเป็นเรื่องที่ตอบยากในเวลานี้ เราลังเลกับการกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก บริษัทการบินบอกเราว่า เลือกนอนในห้องโถงของโรงแรมก็ได้ หรือว่าจะพักอยู่ที่สนามบินต่อไป”
อย่างไรก็ตาม “ประชาไท” ได้ขอสัมภาษณ์ เอริค โอเซ็น ชาวสวีเดนที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยระยะสั้นเขาให้ความเห็นว่า “คนสวีเดนรักประเทศไทย คนไทยเป็นคนนิสัยดี ตอนเหตุการณ์สีนามิ ก็ขอชมว่ารัฐบาลไทยตั้งใจช่วยเหลือคนสวีเดนเป็นอย่างดี แต่ถ้าสถานการณ์นี้ยังไม่ยุติและดำเนินต่อไป มันจะลดจำนวนนักท่องเที่ยวจากสวีเดนและสแกนดิเนเวียลงเป็นจำนวนมาก เพราะว่าสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนและมันยากที่จะคาดเดาได้
ทั้งนี้ในปี 2007 จำนวนนักท่องเที่ยวจากสวีเดนมีจำนวนกว่า 300,000 คน
ที่มาส่วนหนึ่งเรียบเรียงจากข่าว : Mats och Anna fick sova på golvethttp://www.expressen.se/Nyheter/1.1382160/mats-och-anna-fick-sova-pa-golvet
วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น